Emirates NBD เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

Emirates NBD Bank เปลี่ยนแปลงไปสู่ธนาคารดิจิทัลได้อย่างก้าวกระโดดด้วย CPU AMD EPYC™
ธนาคารมุ่งเน้นไปที่บริการดิจิทัลมากขึ้น และกลุ่ม Emirates NBD เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการเงินในภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และตุรกีมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
การมุ่งเน้นไปที่บริการออนไลน์ดิจิทัลนั้น จำเป็นต้องมีพลังในการประมวลผลที่รวดเร็วและยืดหยุ่น ซึ่งโปรเซสเซอร์ AMD EPYC มีทุกสิ่งที่ธนาคาร Emirates NBD ต้องการ เพื่อขยายความสามารถในการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และนำไปสู่การสร้างบริการใหม่

การสร้างชุดเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูง
“Emirates NBD เกิดจากการรวมกันของธนาคาร 2 ธนาคารในดูไบ ในปี ค.ศ. 2007 ซึ่งทำให้เกิดธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองและเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเวลานั้น” Miguel Rio Tinto ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารศูนย์ข้อมูลของ Emirates NBD กล่าว “เราเป็นธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อย ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เราจึงมีนวัตกรรมในทุกๆ ด้านเพื่อให้บริการลูกค้ารายย่อยของเรา เรามีการดำเนินงานอยู่ใน 13 ประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้น”

“เรายังให้บริการใน อินเดีย สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ และอีกไม่นานนี้ เราได้ซื้อกิจการธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในตุรกี นั้นก็คือ DenizBank” ริโอ ตินโตกล่าวต่อ
Emirates NBD ลงทุนอย่างมากในด้านเทคโนโลยี “ด้านหนึ่งคือแพลตฟอร์มเทคโนโลยี” นี่คือข้อกำหนดโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ส่วนตัวที่สนับสนุนกลุ่มเทคโนโลยีทั้งหมดของ Emirates NBD “นอกเหนือจากแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแล้ว ยังมีบริการหลักเกี่ยวกับธุรกรรมทางธนาคาร เช่น บัญชีลูกค้า เงินฝาก สินเชื่อ การค้า การเงิน และการคลัง เราเรียกบริการเหล่านี้ว่าแพลตฟอร์มธุรกิจ” Rio Tinto กล่าว

เราพบว่า CPU AMD EPYC มีความเร็วเฉลี่ยสูงกว่าทางเลือกอื่นถึง 42% – Ali Rey, รองประธานอาวุโสด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ Emirates NBD
“นอกเหนือจากความสามารถหลักด้านการธนาคารซึ่งจัดการโดยฝ่ายไอทีแล้ว เรายังช่วยให้แผนกธุรกิจของเราสามารถจัดการผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของเราเช่น แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ, ช่องทางออนไลน์, ธนาคารออนไลน์สำหรับลูกค้าองค์กร และแท็บเล็ตที่ผู้จัดการด้านความสัมพันธ์กับลูกค้า ใช้งานในสาขา”
“เราใช้งานคอนเทนเนอร์และ VM หลายพันรายการ ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่มาก” – Ali Rey, รองประธานอาวุโสด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ Emirates NBD “เราสร้าง API มากกว่า 1,500 รายการ มีการเรียก API โดยเฉลี่ยมากกว่า 30 ล้านครั้งต่อวัน โดยมีการเรียก API สูงสุด 2,000 ครั้งต่อวินาที และเราสามารถขยายขนาดได้มากกว่านี้ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เรามี”
การบรรลุประสิทธิภาพระดับนี้จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องลดความซับซ้อนของชุดเทคโนโลยีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ Emirates NBD ต้องการเปลี่ยนไปใช้คลาวด์ส่วนตัวทั่วไปที่สามารถสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของเรา ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ AMD EPYC เป็นคำตอบของเรา

ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในทุกงาน
“ช่วงแรกของการเปลี่ยนในปี 2018 ชุดเทคโนโลยีของเราเป็นการผสมผสานของผู้จำหน่ายฮาร์ดแวร์ ฐานข้อมูล และระบบปฏิบัติการ ที่แตกต่างกันหลายร้อยชุด” Rio Tinto กล่าว “ความซับซ้อนนี้ทำให้ยากต่อการขยายตัวทางเทคโนโลยี ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะมีการผสมผสานของเทคโนโลยีที่แตกต่างกันสูงสุดแค่ 8 เทคโนโลยี และตอนนี้ 96 เปอร์เซ็นต์ของโครงสร้างพื้นฐานของเราทำงานเป็น VM หรือคอนเทนเนอร์ ภายใต้การกำหนดมาตรฐานการประมวลผล พื้นที่เก็บข้อมูล และสแต็กเครือข่ายของเรา”
“ชุดเทคโนโลยีใหม่ของเรามีทั้งความยืดหยุดและแข็งแกร่ง” Rey กล่าว “คอนเทนเนอร์ที่หน่วยความจำไม่เพียงพอจะรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติ พวกเขาจะขยายขนาดตามความจำเป็น แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ เราต้องการทรัพยากรที่เหมาะสม” Emirates NBD ไม่ต้องการติดอยู่กับเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ ธนาคารต้องการใช้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน เช่น Kubernetes® และ Docker™ ควบคู่ไปกับเครื่องจำลองเสมือน VMware® ซึ่งช่วยให้สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ส่วนตัวและสาธารณะได้ตามต้องการ
“เราเริ่มได้ยินเกี่ยวกับประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ AMD” Rio Tinto กล่าว สิ่งนี้เริ่มต้นจากการรับรู้ถึงความคุ้มค่าด้านประสิทธิภาพของ AMD เมื่อเทียบกับราคา ในตลาดผู้ใช้งานทั่วไป “เมื่อ AMD รุกเข้ามาในตลาดเซิร์ฟเวอร์ เราต้องการดูว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์แบบเดียวกันหรือไม่” Rey กล่าว “ซึ่งเรามีข้อเสนอมากมายในปี 2021 และเราได้ทำการประเมินข้อเสนอเหล่านั้น เราทดสอบประสิทธิภาพของฐานข้อมูล การทำ API กับธนาคารหลักๆ ของเรา แบนด์วิธของหน่วยความจำ และวิธีที่ CPU เข้าถึงหน่วยความจำ นอกจากนี้เรายังทำการทดสอบการใช้งานชองผู้ใช้บนเว็บหลายครั้งด้วย เราพบว่า CPU AMD EPYC มีความเร็วเฉลี่ยสูงกว่าทางเลือกอื่นถึง 42 % ในบางกรณีก็เร็วกว่าถึง 51 %”
“การทดสอบที่ประสบความสำเร็จนำไปสู่การใช้งานทั่วไป” “ขณะนี้เรากำลังใช้งานเซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant มากกว่า 100 เครื่อง ด้วยโปรเซสเซอร์ AMD รุ่น 3rd Gen 32 core high frequency EPYC” Rey กล่าว “เครื่อง 2 ซ็อกเก็ตมี 64 คอร์ที่ให้ 128 vCPU เรามี RAM จำนวน 2 เทราไบต์พร้อม 64GB ต่อ DIMM เราใช้ NVMe® M.2 สำหรับการบูตไดรฟ์ เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วและมีการกำหนดค่า RAID-1 สำหรับระบบปฏิบัติการ”

“เราไม่เคยมีปัญหาในการย้ายข้อมูล ขณะนี้เราสามารถใช้งาน VM ในจำนวนเท่าเดิมบนเซิร์ฟเวอร์ที่น้อยลงได้แล้ว” Ali Rey, รองประธานอาวุโสด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ Emirates NBD

การประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
“เราไม่เคยมีปัญหาในการย้ายข้อมูล ขณะนี้เราสามารถใช้งาน VM ในจำนวนเท่าเดิมบนเซิร์ฟเวอร์ที่น้อยลง หรือใช้ VM ได้มากขึ้นโดยมีจำนวนลิขสิทธิ์เท่าเดิม” Rey กล่าว “เราต้องการใบอนุญาตลิขสิทธิ์เพียง 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้เรามีบัฟเฟอร์ 20 เปอร์เซ็นต์ในอีก2 ปีถัดไป เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างแท้จริงโดยการเปลี่ยนไปใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC ที่เร็วขึ้น”

“ธุรกรรมส่วนใหญ่เคยใช้เวลาหนึ่งถึงสองวินาที แต่ลดลงเหลือระหว่างครึ่งวินาทีถึงหนึ่งวินาที” Rey กล่าว “เราใช้งานคลัสเตอร์อิลาสติกสำหรับการบันทึกข้อมูลกลางทั้งหมดของเรา เราประมวลผลข้อมูลบันทึกไปเป็นเทราไบต์ต่อวัน โดยทุกๆ โหนดของอิลาสติกจะรองรับการบันทึกข้อมูลเหล่านั้น ซึ่งแต่ละโหนดจะมีงานค้างจำนวน 100 ถึง 300 งาน เมื่อเร็วๆ นี้เราได้ย้ายโหนดเหล่านั้นไปยัง CPU AMD ตัวใหม่ และตอนนี้เราไม่เห็นงานรออยู่เกิน 5 งาน ดังนั้นการบันทึกข้อมูลของเรารวดเร็วขึ้นจนแทบจะเป็นการบันทึกโดยทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต้องรอเวลามากกว่า 30 วินาทีถึงหลายนาที ซึ่งถือว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เพียงแค่เปลี่ยนมาใช้ซีพียู AMD ใหม่ เราได้รับประโยชน์มากมาย เราได้รับการบันทึกข้อมูลแบบแบบเรียลไทม์ ซึ่งยอดเยี่ยมมาก”

การบันทึกข้อมูลของเรารวดเร็วขึ้นจนแทบจะเป็นการบันทึกโดยทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้ต้องรอเวลามากกว่า 30 วินาทีถึงหลายนาที ซึ่งถือว่าเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่เพียงแค่เปลี่ยนมาใช้ซีพียู AMD ใหม่ – Ali Rey, รองประธานอาวุโสด้านแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ Emirates NBD

ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นจากโปรเซสเซอร์ AMD EPYC นอกจากเหมาะกับงานที่หลากหลายและมีปริมาณมากแล้ว ยังมอบความยืดหยุ่นเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน “ในระหว่างวัน จะเป็นงานเกี่ยวกับการทำ APIs และงานหลักๆ ของธนาคาร” Rey กล่าว “ในเวลากลางคืน เราจะจัดสรรการทำงานใหม่ เพื่อให้งานประมวลผลข้อมูลของเรา เป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มีธนาคารไม่มากนักที่ทำงานมีประสิทธิภาพในระดับเดียวกับเรา”
“เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานของเราเป็นแบบทั่วไป เราจึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ” Rio Tinto กล่าว “การปรับปรุงประสิทธิภาพเป็นเรื่องมีความสำคัญและต้องชัดเจน” Rey สรุปประสบการณ์ของ Emirates NBD กับโปรเซสเซอร์ AMD EPYC: “เราทำการประมวลผลได้มากขึ้น ท่ามกลางความหนาแน่นของโครงสร้างพื้นฐานเท่าเดิม โดยใช้เซิร์ฟเวอร์น้อยลง โปรเซสเซอร์ AMD EPYC เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมที่ขายตัวมันเองได้ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่เร็วขึ้น และทำงานได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ เรามีความสุขมากกับการตัดสินใจที่เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์นี้”

เกี่ยวกับ Emirates NBD
Emirates NBD (DFM: Emirates NBD) เป็นกลุ่มธนาคารชั้นนำในภูมิภาค MENAT (ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และตุรกี) โดยมีการดำเนินงานใน 13 ประเทศ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 17 ล้านราย ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 สินทรัพย์รวมอยู่ที่ AED 711 พันล้าน AED (AED – เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ / เทียบเท่าประมาณ 193 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นกลุ่มบริษัทมีการดำเนินงานในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ อินเดีย ตุรกี ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร ออสเตรีย เยอรมนี รัสเซีย และบาห์เรน และมีสำนักงานตัวแทนในจีนและอินโดนีเซีย รวม 900 สาขา และตู้ ATM / SDM 4,086 เครื่อง Emirates NBD เป็นแบรนด์บริการทางการเงินชั้นนำในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีมูลค่าแบรนด์ 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Emirates NBD Group ให้บริการลูกค้า (บุคคลธรรมดา ธุรกิจ รัฐบาล และสถาบัน) และช่วยให้พวกเขาบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเงินผ่านผลิตภัณฑ์และบริการด้านการธนาคารที่หลากหลาย รวมถึงธุรกรรมธนาคารสำหรับลูกค้ารายย่อย การธนาคารสำหรับธุรกิจและสถาบันธนาคารอิสลาม ธนาคารเพื่อการลงทุน การบริหารเงินส่วนบุคคล การบริหารสินทรัพย์ การจัดการด้านตลาดและการคลังทั่วโลก และการดำเนินการด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เป็นกลุ่มบริษัทที่มีส่วนร่วมหลักในอุตสาหกรรมธนาคารดิจิทัลทั่วโลก โดย 94% ของธุรกรรมทางการเงินและคำขอทั้งหมดดำเนินการนอกสาขา นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังดำเนินงาน Liv. (ธนาคารดิจิทัลไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นมิลเลนเนียล)
Emirates NBD มีส่วนช่วยในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ในฐานะผู้มีส่วนร่วมและผู้สนับสนุนโครงการพัฒนาหลักและความยั่งยืนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมถึงสุขภาพทางการเงินและการรวมผู้คนที่มีความมุ่งมั่น Emirates NBD ยังเป็นผู้สนับสนุนโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืนของ Dubai Can ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มทั่วทั้งเมืองที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการใช้น้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ emiratesnbd.com